CSR ต่างกับ CSV อย่างไร

CSRorCSV

วันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักข้อแตกต่างระหว่าง CSR และ CSV กัน

 

SCR

 

หากจะให้เข้าใจโดยง่ายนั้นก็ต้องบอกก่อนเลยว่า CSR (Corporate Social Responsibilty) สามารถที่จะอธิบายให้เข้าใจได้โดยง่ายคือ ความรับผิดชอบของบริษัทต่างๆ ซึ่งมีต่อสังคม โดยในที่นี้ส่วนใหญ่แล้วจะมีความนิยมแสดงผ่านกิจกรรมต่างๆ ที่จะไม่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการของธุรกิจหลัก แต่บริษัทจะเน้นการแบ่งปันผลจากกำไรมาใช้ในการจัดกิจกรรมหรือโครงการต่างๆ ซึ่งจะจัดขึ้นเพื่อสังคม บางครั้งจะถูกจัดขึ้นจากความกดดันของภายนอก หรือตามความต้องการของผู้บริหารที่มีการเห็นพ้องต้องกัน

CSV

 

ในส่วนของ CSV (Creating Shared Value) นั้น คือการปรับเปลี่ยน ในส่วนของการดำเนินธุรกิจ ซึ่งจะเป็นการปรับเปลี่ยนให้ตรงกับความต้องการของผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียกับธุรกิจหรือบริษัทนั้นๆ ไม่ว่าจะเป็นผู้ถือหุ้น คู่ค้า ไปจนถึง ลูกค้า หรือ ชุมชน และยังรวมไปถึงสิ่งแวดล้อมโดยรอบอีกด้วย โดยจะเป็นการปรับตัวในรูปแบบของการเป็นกิจที่ยั่งยืนมากขึ้น โดยจะเป็นการลดในเรื่องของการปล่อยของเสีย และลดการใช้ทรัพยากร ของธุรกิจหรือบริษัทในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการลดของเสียจากกระบวนการผลิต ซึ่งทำให้เกิดมลพิษ ด้วยคาร์บอนจากการเผาไหม้ หรือการปล่อยน้ำเสียหรือปนเปื้อนลงสู่แหล่งน้ำเป็นต้น แต่ในรูปแบบของ CSV นั้น จะไม่ได้เป็นในรูปแบบของการหาผลกำไร หรือ กิจกรรม โครงการ การกุศล โดยตรง จะเน้นไปในเรื่องของ Value Chain หรือ การสร้างคุณค่าใหม่ขึ้นมาในรูปแบบของห่วงโซ่ เพื่อใช้ในการสร้างผลิตภัณฑ์ หรือบริการในรูปแบบใหม่ที่หวังดีต่อทั้งสภาพแวดล้อมและสังคม ซึ่งเป็นการตอบสนองความต้องการของลูกค้า สามารถที่จะอยู่คู่กับชุมชนและสภาพแวดล้อมได้อย่างยั่งยืน อีกทั้งยังสามารถสร้างกำไรให้แก่บริษัทได้โดยที่ไม่มีผลกระทบ ซึ่งในปัจจุบันคนสนใจที่จะทำธุรกิจในรูปแบบนี้กันค่อนข้างเยอะ โดยเฉพาะในเด็กรุ่นใหม่ที่มีความใส่ใจในเรื่องของสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้น และยังมีอีกหลายบริษัทที่ประสบความสำเร็จ ในการทำธุรกิจในรูปแบบของ CSV

 

SCR

ความแตกต่างของ CSR และ CSV

ในส่วนของ CSR นั้น จะมีความคิดที่มุ่งเน้นไปในส่วนของการรับผิดชอบต่อสังคม โดยการช่วยเหลือผ่านกิจกรรมต่างๆ ถึงแม้ว่าจะสร้างภาพลักษณ์ที่ดีแก่บริษัทได้ ซึ่งอาจจะสามารถสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจ หรือบริษัทได้ แต่สำหรับผลกระทบในเรื่องของการควบคุมมลพิษหรือความเน่าเสียของแหล่งน้ำนั้น อาจจะทำให้ชุมชน รวมถึงสังคมรอบข้างไม่สามารถที่จะเพิ่มความพอใจมากขึ้นได้ อาจจะเป็นเพราะว่าการทำธุรกิจในรูปแบบของCSR นั้นอาจจะดูง่ายกว่าการทำธุรกิจในรูปแบบของ CSV ซึ่งสำหรับสังคมส่วนมากแล้ว มักจะมองธุรกิจในประเภทนี้ว่ากิจกรรมที่ทำขึ้นเพื่อสังคมนั้น จัดขึ้นเพียงเพื่อเพิ่มภาพลักษณ์ให้ดูดีขึ้นแก่บริษัทเท่านั้น ต่อให้ความเป็นจริงแล้ว ผู้จัดจะมีเจตนาที่ดีหรือมีความตั้งใจจะช่วยเหลือสังคมจริงๆ ก็ตาม เพราะปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อมนั้น อาจดูเป็นปัญหาที่สร้างผลกระทบระยะยาวมากกว่าการที่จะมาจัดกิจกรรมเป็นครั้งคราวนั้นเอง และในปัจจุบันปัญหาสิ่งแวดล้อมนั้นเริ่มเป็นที่สนใจมากขึ้น ส่วน CSV นั้น ดูจะเป็นการอยู่ร่วมกับสังคมและชุมชนได้อย่างยั่งยืนมากกว่า เพราะเป็นการสร้างคุณค่าร่วมกันระหว่างบริษัทและสังคมรวมถึงสิ่งแวดล้อมรอบข้าง เป็นการหาช่องว่างตรงกลางระหว่างบริษัทและชุมชน รวมไปถึงไม่สร้างปัญหาและเป็นประโยชน์ให้แก่ทุกฝ่าย โดยที่ไม่จำเป็นต้องจัดโครงการหรือกิจกรรมอะไรมากมายเป็นพิเศษ แต่รูปแบบของธุรกิจในประเภทนี้นั้นอาจจะซับซ้อนกว่าในรูปแบบ CSR นั้นเอง แต่ในทางกลับกันนั้นก็จะไม่ได้รับแรงกดดันจากสังคมและชุมชนโดยรอบ ซึ่งหากหาหนทางดำเนินธุรกิจในประเภทนี้ได้แล้วบริษัทก็จะสามารถอยู่ได้อย่างยั่งยืนกว่าในรูปแบบ CSR อย่างแน่นอน