ร่วมมือร่วมใจช่วยกันลดมลพิษกับโครงการ Car free day กิจกรรมการลดใช้รถส่วนบุคคล

วันที่ 22 กันยายน ของทุกปี คือวัน  Car Free Day หรือ วันปลอดรถ เป็นกิจกรรมรณรงค์ขอความร่วมมือจากทุกประเทศ โดยองค์กรต่างๆทั่วโลก จะรณรงค์ให้ประชาชนในประเทศนั้นๆที่มีรถยนต์ลดการใช้รถส่วนบุคคล และเปลี่ยนมาใช้บริการขนส่งมวลชนสาธารณะ , ขี่จักรยานเพิ่มขึ้น ,หรือทางเดียวกันไปด้วยกัน เอื้อเฟื้อแก่เพื่อนบ้าน ,รวมถึงการเดิน กิจกรรมรณรงค์นี้มีจุดประสงค์เพื่อลดปริมาณการใช้รถยนต์ตามท้องถนน ซึ่งจะช่วยลดปัญหามลพิษทางอากาศจากยานพาหนะที่มีล้นบ้างเมือง และช่วยทำให้คุณภาพอากาศรอบๆตัวเราดีขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยลดปัญหาการจราจรติดขัด , การเกิดอุบัติเหตุ ,ลดมลภาวะทางเสียง, ลดการใช้พลังงาน แถมช่วยประหยัดเวลาในการเดินทางได้มาก

โดยกิจกรรมรณรงค์ Car free day เริ่มขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ.2499 ณ ประเทศเบลเยี่ยม และ เนเธอร์แลนด์  รณรงค์ลดใช้รถยนต์ทุกๆวันอาทิตย์ เป็นเวลาราวๆ 3 เดือน ต่อมาหลายชาติได้มีการเคลื่อนไหวรณรงค์ถนนปลอดรถกันมากขึ้น มีการประชุมระดับนานาชาติกันหลายครั้ง จนกระทั่งใน พ.ศ.2541 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานของฝรั่งเศส ได้ร่วมมือกับ 34 เมืองทั่วประเทศ ถือเอาวันที่ 22 กันยายน เป็นวันประจำภายใต้โครงการชื่อ En ville, sans ma voiture? หรือแปลเป็นภาษาไทยก็คือ เมืองจะปลอดรถยนต์สักวันนึงได้ไหม?

 สำหรับประเทศไทย ได้เริ่มกิจกรรม Car Free Day ครั้งแรกมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2543 ก็ดำเนินกิจกรรมนี้เรื่อยมาในทุกๆปีจนถึงปัจจุบัน  ในสมัยอดีตนายกคุณชวน หลีกภัย ซึ่งตอนนั้นดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีก็ได้ร่วมกิจกรรมนี้ ด้วยการขี่จักรยานไปยังทำเนียบรัฐบาล ในส่วนของกิจกรรมที่ทำกันอย่างเป็นสม่ำเสมอนั้นก็คือ การปั่นจักรยานแล้วจอดรถยนต์ส่วนตัวไว้ที่บ้าน เพื่อออกมาทำกิจกรรมร่วมกัน ซึ่งได้ผลตอบรับเป็นอย่างดีจากประชาชนจำนวนมาก

ลองมาดูข้อดีของการขี่จักรยานกันเสียหน่อย

 

1.เป็นการออกกำลังกายแบบคาดิโอ้ทำให้หัวใจแข็งแรง

2.ลดความอ้วนขาเล็กกระชับ

3.ไขมันไม่อุดตันในเส้นเลือด

4.ปอดแข็งแรง

5.ประหยัดค่าน้ำมัน

6.สร้างความสนุกสนานช่วยลดความเครียด

กิจกรรมรณรงค์ Car free day ไม่ได้มีเฉพาะแค่วันที่ 22 กันยายนเท่านั้น แต่รวมถึงทุกวันอาทิตย์ตลอดเดือนกันยายน เลยทีเดียว การป้องกันง่ายกว่าการฟื้นฟูมากๆ โดยเฉพาะธรรมชาติเราต้องเก็บรักษาไว้ให้ลูกหลานสืบไป ซึ่งเป็นเรื่องทำเพียงแค่คนเดียวหรือสองคนไม่ได้ แต่มันคือเรื่องที่ทุกคนในสังคม ในชาติ ในโลก ต้องช่วยกัน และต้องมีความตระหนักถึงความสำคัญของสภาพแวดล้อม จึงอยากจะขอเชิญชวนทุกท่านที่มีรถยนต์ส่วนตัวมาทำกิจกรรมนี้ด้วยกัน เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ และฟื้นฟูสภาพอากาศให้ดีขึ้นกว่าเดิม