ความเป็นจริงที่คนกรุงเทพฯ ต้องพบเจอนั่นคือนี่เป็นเมืองรถติดอันดับต้นๆ ของโลก ยิ่งยุคนี้รถออกง่ายแสนง่าย มีเงินไม่กี่หมื่นก็สามารถดาวน์รถมาขับเป็นของตนเองได้แล้วยิ่งทำให้เกิดปัญหารถล้นถนนมากขึ้นไปอีก ไหนจะการก่อสร้างต่างๆ นานา เห็นแล้วปวดหัวยังไม่อยากนับถึงช่วงเวลาเร่งด่วนวันทำงานช่วงเช้า 7 โมง ถึงราวๆ 9 โมง และช่วงเย็นตั้งแต่ 5 โมงเย็น ถึง 2 ทุ่ม บางพื้นที่ใช้คำว่าวิกฤติได้เลยซึ่งปัญหารถติดในกรุงเทพฯ เราสมารถแยกสาเหตุต่างๆ ออกมาได้ดังนี้
สาเหตุหลักทำให้เกิดปัญหารถติดใน กทม.
- รถมีจำนวนเยอะเกินไป ยอดจดทะเบียนรถเมื่อตอนสิ้นเดือนเมษายน 2560 ปรากฏว่ามีมากกว่า 37 ล้านคัน แค่คิดกันเล่นๆ ก็ตกตะลึงกับปริมาณรถมหาศาลที่แออัดอยู่ในกรุงเทพฯ อย่างน้อยก็น่าจะหลายล้านคันต่อวัน
- เกิดปัญหารถเสียบ่อยๆ กีดขวางการจราจร รวมถึงอุบัติเหตุต่างๆ ที่ทำให้คนใช้รถใช้ถนนร่วมกันต้องพลอยเจอปัญหารถติดตามกันไปด้วย
- มีการซ่อมแซมเส้นทาง สร้างสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น รถไฟฟ้า, อุโมงค์, สะพานข้ามแยก, ปรับปรุงถนน และอื่นๆ เกี่ยวกับการที่ต้องปิดการจราจรหรือบีบการจราจรให้แคบลงยิ่งทำให้รถติดหนักเข้าไปใหญ่
- การจอดในที่ห้ามจอดโดยเฉพาะบริเวณริมถนน เรามักชอบเห็นว่าถนนหลายสายในกรุงเทพฯ ริมฟุตบาทจะเต็มไปด้วยรถจอดมากมาย เป็นอีกปัญหาสำคัญที่อาจนึกไม่ถึงว่าเราต้องเสียเลนจราจรไป 1 เลนเต็มๆ เพื่อให้รถเหล่านั้นจอดอย่างสบายใจ
- ทางเดียวกันแต่ไม่ไปด้วยกัน – คือบางคนเข้าใจว่าต้องการความสะดวกสบายของตนเองเป็นหลัก ไม่ว่าไปไหนจึงขอใช้รถออกไปขับดีกว่าการนั่งรถโดยสารหรือใช้ระบบขนส่งสาธารณะ นั่นทำให้คนหนึ่งคนเท่ากับรถหนึ่งคัน เมื่อคน 100 คน คิดเหมือนกัน รถบนถนนก็มี 100 คัน ทั้งๆ ที่ถ้าลองคิดต่างสัก 50 คน รถจะหายไป 50 คัน เลย
- ไม่เคารพกฎจราจร บรรดาห้างใหญ่ๆ หรือสถานที่ที่ชอบมีรถแท็กซี่ รถโดยสารไปจอดแช่เพื่อรอผู้โดยสารเป็นอีกตัวการสำคัญทำให้เกิดปัญหารถติดในกรุงเทพฯ ยังไม่นับพวกปาดจอดรับคนกันหน้าตาเฉยๆ หรืออยากจอดเปิดไฟกระพริบตรงไหนก็จอด
- ฝนตก รถติด น้ำท่วม ของดีคู่เมืองกรุงเทพฯ ที่ถ้าฝนตกเมื่อไหร่การจราจรจะเริ่มเป็นอัมพาตยิ่งเส้นไหนฝนตกหนักจนน้ำท่วมขอบอกเลยว่าลาก่อน
นี่คือปัญหาส่วนหนึ่งของสิ่งที่เกิดขึ้นจริงเกี่ยวกับเรื่องรถติดในกรุงเทพฯ แม้คนกรุงทุกคนจะรู้กันดีแต่สุดท้ายก็ต้องก้มหน้ารับสภาพกันต่อไป